วันอนุรักษ์น้ำโลก หรือ World Water Day
ด้วยวันอนุรักษ์น้ำโลก หรือ World Water Day ตรงกับวันที่ 22 มีนาคม ของทุกปี ซึ่งถือเป็น
วันสำคัญวันหนึ่งของมวลมนุษยชาติเลยทีเดียว เพราะมนุษย์เราต้องใช้ทรัพยากรน้ำในการดำรงชีวิต วันอนุรักษ์น้ำโลก มีจุดเริ่มต้นจากการประชุมเรื่องสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราชิล ในวันที่ 22 มีนาคม ปี 1992 ที่มี เนื้อหาสำคัญโดยตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรน้ำของมนุษย์ จึงมีแนวคิดที่จะจัดกิจกรรมที่จะเป็นแผนแม่บทให้ประเทศต่าง 1 ทั่วโลกได้เฝ้าระวังทรัพยากรน้ำในประเทศนั้น ๆ และในวันนั้นเอง สมัชชาทั่วไปแห่งสหประชาชาติก็ได้ออกประกาศให้วันที่ 22 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันWorld Water Day หรือ วันอนุรักษ์น้ำโลก
องค์การบริหารส่วนตำบลคลองใหม่ จึงขอประชาสัมพันธ์รณรงค์ส่งเสริมให้ความรู้แก่ประชาชน
เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำในหมู่บ้าน/ชุมชน การใช้น้ำอย่างประหยัดและการจัดการน้ำเสียในชุมชน
วิธีอนุรักษ์น้ำ
1. การดูแลรักษาแหล่งน้ำจากกิจกรรมทางการเกษตร
- การปลูกพืชเกษตรจำเป็นต้องใช้แหล่งน้ำตามธรรมชาติ ตลอดจนถึงการระบายน้ำทิ้งจากพืชผัก ดังนั้นเกษตรกรจึงควรลดการใช้สารเคมีที่มีพิษ เพราะสารเคมีเหล่านั้นย่อมไหลลงแหล่งน้ำและซึมลงใต้ดิน ควรหาความรู้เพื่อประยุกต์ใช้กับการอนุรักษ์น้ำ เช่น เทคโนโลยี ชลประทาน ระบบน้ำหยดในการเพาะปลูก
ตลอดถึงการปลูกต้นไม้ใกล้เคียงเพื่อให้ซึมชับน้ำก่อนปล่อยลงสู่แม่น้ำ
2. การรักษาแหล่งน้ำจากภาคอุตสาหกรรม
- น้ำเสียเป็นส่วนหนึ่งของภาคอุตสาหกรรมโรงงานจึงควรวางแผนการบำบัดน้ำก่อนปล่อยลงสู่สิ่งแวดล้อม ตั้งแต่กระบวนการคัดแยกของแข็งที่ปนเปื้อนกับน้ำ แล้วเติมคลอรีนเพื่อกำจัดของเสีย จากนั้นคัดแยกของหนืดเติมออกชิเจนเพื่อให้น้ำแบคทีเรียย่อยอินทรียวัตถุเป็นขั้นตอนสุดท้ายการกำจัดสารมลพิษในน้ำก่อนระบายทิ้งสู่แหล่ง
3. การรักษาแหล่งน้ำจากภาคครัวเรือน
- แม้ภาคครัวเรือนจะไม่มีสารเคมีปนเปื้อนเท่ากับภาคอุตสาหกรรม แต่สามารถใช้วิธีกำจัดของเสียก่อนระบายเช่นเดียวกัน โดยไม่จำเป็นต้องใช้ระบบให้สิ้นเปลืองมากขนาดนั้น อาจหาวิธีที่เหมาะสมและง่ายกว่า เช่น การสร้างบ่อกักเก็บ อย่างถูกวิธี ติดตั้งสุขภัณฑ์และระบบประหยัดน้ำ
แนวทางการดูแลรักษาแหล่งต้นน้ำ
1. การปลูกป่า
- แหล่งกำเนิดน้ำจืดที่สำคัญคือน้ำใต้ดิน พื้นที่ภูเขาโดยเฉพาะป่าที่อุดมสมบูรณ์การปลูกป่าจะช่วยเพิ่มต้นไม้ที่เป็นตัวกักเก็บน้ำตามธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดทั้งบนดินและใต้ดิน แล้วปลดปล่อยน้ำออกมาอย่างต่อเนื่องได้ตลอดทั้งปีโดยไม่เอดแห้ง
2. การพัฒนาแหล่งกักเก็บน้ำ
– แหล่งกักเก็บน้ำในปัจจุบันเริ่มเสื่อมโทรมและมีสภาพตื้นเขิน
ทำให้ปริมาณน้ำลดลงไม่เพียงพอต่อการแจกจ่ายในชุมชน ดังนั้นการขุดลอกแหล่งน้ำให้กว้างและลึกเพื่อกักเก็บน้ำมากๆ จึงมีความสำคัญ ตลอดถึงหาวิธีกักเก็บน้ำแบบธรรมชาติ เช่นโครงการแก้มลิง
3.สร้างฝ่ายชะลอน้ำเพื่อให้น้ำไหลผ่านช้าลง
- ทำให้บริเวณนั้นกักเก็บน้ำได้มากขึ้น เป็นผลทำให้พื้นที่ป่าไม้มีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นด้วยน้ำเป็นทรัพยากรสำคัญต่อชีวิตมนุษย์ การดูแลรักษาน้ำจึงเป็นหน้าที่ของประชาชน ชุมชนหน่วยงาน ที่ทุกภาคส่วนล้วนเกี่ยวข้องกับการใช้น้ำทั้งสิ้น การบริหารจัดการน้ำให้มีคุณภาพดีตั้งแต่แหล่งต้นน้ำจนถึงการระบายน้ำเพื่อให้นำกลับมาใช้ใหม่